อาชีพของคนจังหวัดพัทลุง
การเกษตรกรรม
จังหวัดพัทลุง มีพื้นที่ทั้งหมด 2,140,296 ไร่ ในปี 2545 มีพื้นที่ทำการเกษตร จำนวน 1,422,894 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 66.48 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ซึ่งเพิ่มจากปี 2544 จำนวน 55,325 ไร่ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่
1) ข้าว เนื้อที่ปลูกข้าว จำนวน 549,978 ไร่ ผลผลิตปีละ 274,458 ตัน มูลค่า 1,196.36 ล้านบาท เกษตรกรปลูกในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัด โดยแบ่งการปลูกออกเป็น 2 ประเภท ข้าวนาปี และข้าวนาปรัง พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกคือ พันธุ์ข้าว เล็บนก ชัยนาท 1 มาเลย์ สังหยด ดอกมะลิ เข็มทอง เฉี้ยง เป็นต้น ใช้บริโภคภายในจังหวัด 130,976 ตัน ที่เหลือส่งจำหน่ายใช้ทำพันธุ์และเลี้ยงสัตว์ ตลาดข้าวพัทลุง ได้แก่ 14 จังหวัดภาคใต้ และตลาดชายแดนมาเลเซีย (ค้าชายแดน)
2) ยางพารา เนื้อที่ปลูก 675,298 ไร่ ผลผลิตปีละ 150,052.28 ตัน มูลค่า 5,251.83 ล้านบาท เกษตรกรปลูกในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัด
3) ไม้ผล เนื้อที่ปลูก 64,771 ไร่ ได้แก่ ลองกอง มังคุด ทุเรียน และเงาะ ผลผลิตปีละ 26,606 ตัน มูลค่า 341.72 ล้านบาท
(ที่มา : สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง)
การประมง
จังหวัดพัทลุงมีแหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่งที่สำคัญคือทะเลสาบสงขลาตอนใน และทะเลน้อย ซึ่งในอดีตชาวประมงในพื้นที่จังหวัดพัทลุง สามารถจับสัตว์จากแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อบริโภค และจำหน่าย สร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันแหล่งน้ำต่าง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสื่อมโทรมลง เนื่องจากการกระทำของมนุษย์ และธรรมชาติ เช่น การใช้เครื่องมือและวิธีการฝ่าฝืนกฎหมาย การใช้อวนล้อม อวนตาถี่ ใช้ยาเบื่อเมา ระเบิด การปล่อยน้ำของเสีย สารเคมีที่มีพิษลงสู่แม่น้ำ น้ำทั้งจากชุมชนต่าง ๆ และจากธรรมชาติ คือการรุกตัวของน้ำเค็มในบางฤดู การเกิดวัชพืชน้ำหลายชนิดเป็นจำนวนมาก สาเหตุต่าง ๆ ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำต่าง ๆ ถูกทำลายลดปริมาณลง ปัจจุบันราษฎรที่ประกอบอาชีพประมงส่วนใหญ่ จึงประกอบอาชีพในลักษณะทำการประมงแบบยังยืน โดยใช้เครื่องมือ แห ตาข่าย โพงพาง อวนลอย เป็นต้น และประกอบอาชีพอื่น ๆ เช่น เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช ควบคู่ไปกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ทดแทนปริมาณสัตว์น้ำธรรมชาติที่จับได้ลดลง
ข้อมูลการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
การเพาะเลี้ยงปลา ปลาที่นิยมเพาะเลี้ยงมาก คือ ปลาดุกลูกผสม ปลาช่อน ปลานิล ปลาตะเพียนขาว และปลากินพืชชนิดต่าง ๆ จากข้อมูลของสำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง มีผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอีก จำนวน 8,983 ราย พื้นที่ 3,983 ราย พื้นที่ 3,050 ไร่ ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ 14,453 กิโลกรัม
การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง มีเลี้ยงเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอปากพะยูน โดยเฉพาะในตำบลเกาะนางคำ เกาะหมาก ฝาละมีและปากพะยูน สัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงจะเป็นสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง เช่น กุ้งกุลาดำ ปลากระพงขาว จากข้อมูลปี 45 มีผู้เพาะเลี้ยงปลากระพงขาว 124 ราย จำนวน 309 กระชัง ได้ผลผลิตประมาณ 185,400 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 16.6 ล้านบาท มีผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำ 460 ราย พื้นที่ 3,053 ไร่ ได้รับผลผลิต 2,442,400 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 488.4 ล้านบาท นอกจากนี้มีการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม โดยทำการเลี้ยงในคอก จำนวน 43 ราย ผลผลิตประมาณ 12,900 กิโลกรัม มูลค่า 2.8 ล้านบาท
(ที่มา : สำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง)
การปศุสัตว์
การเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรในจังหวัดพัทลุง ส่วนใหญ่แล้วเป็นการเลี้ยงรายย่อย และเลี้ยงควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพอื่น สัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ได้แก่
1) สุกร เกษตรกรผู้เลี้ยงมีจำนวน 6,750 ครัวเรือน มีจำนวนสุกรทั้งสิ้น 103,301 ตัว นิยมเลี้ยงกันมากในท้องที่อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน และป่าบอน เกษตรกรสามารถส่งสุกรออกไปจำหน่ายยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ ประมาณ 9,000 – 9,500 ตัว/เดือน และใช้บริโภคในจังหวัดพัทลุงประมาณ 5,000 ตัว/เดือน ผลผลิตปีละประมาณ 180,000 ตัว/ปี มูลค่ารวมทั้งสิ้น 540 ล้านบาท
2) โคเนื้อ ในอดีตเกษตรกรมักนิยมเลี้ยงโคพื้นเมืองเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันเริ่มหันมาเลี้ยงโคพันธุ์ และโคลูกผสมกันมากขึ้น นิยมเลี้ยงกันมากท้องที่อำเภอเมือง เขาชัยสน ปากพะยูน ควนขนุน และป่าบอน ณ เดือนมกราคม 2546 มีเกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 17,335 ครัวเรือน มีจำนวนโคเนื้อ 77,280 ตัว เป็นโคพื้นเมือง 61,824 ตัว โคพันธ์แท้และโคลูกผสม 15,456 ตัว ใช้บริโภคในจังหวัดประมาณเดือนละ 350 ตัว และส่งไปขายต่างจังหวัด เช่น สตูล ปัตตานี ประมาณเดือนละ 500 – 600 ตัว ซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และจากสถิติข้อมูลที่ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจำนวนโคเนื้อตั้งแต่ปี 2540 – 2544 พบว่าบางปีเกษตรกรเลี้ยงในปริมาณที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากแรงจูงใจด้านราคา แต่ส่วนใหญ่แล้วมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปัญหาด้านพื้นที่และค่าพันธุ์ที่มีราคาสูง ผลผลิตปีละประมาณ 12,000 ตัน มูลค่ารวม 180 ล้านบาท
3) โคนม จังหวัดพัทลุง เป็นจังหวัดที่เลี้ยงโคนมมากที่สุดในภาคใต้ มีโรงงานผลิตภัณฑ์นม จำนวน 1 แห่ง มีอัตรากำลังการผลิต 48 ตันต่อวัน ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์เป็นถุงสำเร็จรูป จำหน่ายภายในจังหวัดพัทลุง ร้อยละ 60 และจำหน่ายต่างจังหวัดร้อยละ 40 เกษตรกรนิยมเลี้ยงโคนมมากท้องที่อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน เขาชัยสน และป่าพะยอม ณ มกราคม 2546 มีเกษตรกรเลี้ยงโคนม จำนวน 280 ครัวเรือน มีโคนม จำนวน 3,598 ตัว (แม่โครีดนม 1,629 ตัว/แม่โคแห้งนม 417 ตัว/ลูกโค, โคสาว, โครุ่น 1,552 ตัว) มีน้ำนมเฉลี่ย 9.85 กก./ครัวเรือน หรือผลผลิตตกประมาณปีละ 5,840 ตัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 64 ล้านบาท
4) การเลี้ยงสัตว์ปีก ได้แก่ ไก่พื้นเมือง ไก่เนื้อ เป็ดเทศ เป็ดไข่ เกษตรกรเลี้ยงกันทั่วไปทุกอำเภอ/กิ่งอำเภอ ท้องที่ที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงกันมาก ได้แก่ ท้องที่อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน เขาชัยสน และป่าบอน ณ มกราคม 2546 มีเกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมือง จำนวน 21,423 ครัวเรือน จำนวนไก่พื้นเมือง 605,570 ตัว ไก่เนื้อมีเกษตรกรเลี้ยง จำนวน 332 ครัวเรือน จำนวนไก่เนื้อ 531,892 ตัว เป็ดเทศมีเกษตรกรเลี้ยง จำนวน 5,153 ครัวเรือน จำนวนเป็ดเทศ 111,227 ตัว และเป็ดไข่มีเกษตรกรเลี้ยง จำนวน 3,699 ครัวเรือน จำนวนเป็ดไข่ 74,813 ตัว
(ที่มา : สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง)
การอุตสาหกรรม
การอุตสาหกรรมในจังหวัดพัทลุง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก เช่น โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา โรงสีข้าว ร้านค้าส่งและค้าปลีก ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง โรงงานจะตั้งกระจายอยู่ทุกอำเภอ โดยท้องที่ที่โรงงานตั้งอยู่มากที่สุด คือ อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน เขาชัยสน แต่เมื่อพิจารณาเงินที่ผู้ประกอบการนำมาลงทุน พบว่ามีการลงทุนในท้องที่อำเภอเมืองพัทลุงมากที่สุด เป็นเงิน 385,181,952 บาท รองลงมาคือ อำเภอป่าบอน เป็นเงิน 274,228,522 บาท และอำเภอควนขนุน เป็นเงิน 137,890,154 บาท ในส่วนของการจ้างงานพบว่า โรงงานเขตอำเภอเมืองพัทลุง มีการจ้างงานมากที่สุด จำนวน 1,317 คน รองลงมาคือ อำเภอป่าบอน จำนวน 414 คน ดังตาราง
(ที่มา : สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง)
การพาณิชย์และการบริการ
การพาณิชย์ ภาคการค้าและการบริการส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อการบริโภคของประชากรในจังหวัดพัทลุง เช่น ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าสวัสดุก่อสร้างและสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ ณ มกราคม 2546 ในช่วง 9 เดือน ปี 2545 การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว มีการส่งเสริมการลงทุน 1 รายเป็นกิจการผลิตยางแท่งร่วมทุนระหว่างไทยและอินโดนีเซีย เงินลงทุน 109.0 ล้านบาท และมีการจ้างงาน 233 คน สำหรับการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลมีการจดทะเบียน 47 ราย ทุนจดทะเบียน 77.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 30.6 และ 53.9 ตาลำดับ สำหรับพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในเขตเทศบาล จำนวน 25,220 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันในปีก่อนร้อยละ 62.6 ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัย 20,495 ตารางเมตร และก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ 2,802 ตารางเมตร
การบริการ จังหวัดพัทลุง ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ให้บริการ ส่วนใหญ่เป็นห้าง/ร้านค้าปลีก ขนาดกลางและขนาดเล็ก จำหน่ายสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคทั่วไป ด้านการบริการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุงเป็นอีกจังหวัดหนึ่งในกลุ่มพื้นที่เสริม พรั่งพร้อมในด้านการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ หรือประวัติศาสตร์ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกยังน้อยอยู่ มีโรงแรมที่พักนักท่องเที่ยว เช่น ลำปำรีสอร์ท มี 68 ห้องพัก ไทยโฮเต็ล 56 ห้องพัก โรงแรมหอฟ้า 94 ห้องพัก ดีน่า อินน์ 24 ห้องพัก แกรนด์ แมนชั่น 76 ห้องพัก เป็นต้น สำหรับร้านอาหาร ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น ควนมะพร้าว พรรคพวก ลำปำซีฟู๊ด สวนอาหารสวนไผ่ อิมหยก อิสาน เป็นต้น
(ที่มา : สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพัทลุง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น